ก้มหน้าเล่นมือถือ เสี่ยง “คอเหี่ยว” ได้ไม่รู้ตัว !!

ในยุคสังคมก้มหน้าแบบนี้ หลาย ๆ คนก็คงคุ้นชินกับการก้มหน้าเล่นมือถือกันใช่มั้ยล่ะคะ ไหนจะต้องแชท เล่นเกมส์ หรือดูเรื่องราวบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ จากพฤติกรรมที่กล่าวมา ทุกคนคงคุ้นชิน จนละเลยไปว่าข้อเสียมันเยอะกว่าที่คิดนะ !! นอกจากแสงสีฟ้าจากจอมือถือที่ทำลายจอประสาทตาเราแล้ว รู้ไหมคะว่า การก้มหน้าเล่นมือถือนี่แหละ เป็นตัวการสำคัญเลย ที่จะทำให้เกิดริ้วรอยบริเวณลำคอ หรือที่หลาย ๆ คนเรียกกันว่า “คอเหี่ยวย่น” นั่นเอง !! แล้วการก้มหน้าเล่นมือถือ เกี่ยวอะไรกับริ้วรอยที่ลำคอล่ะ ? การที่เราก้มหน้าเล่นมือถือ หรือพิมพ์แชทเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้ชั้นผิวหนังบริเวณลำคอถูกกดทับ เมื่อบ่อยครั้งเข้า จะส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณลำคอที่เรียกว่า “แพลทิสมา” (Platysma) อ่อนแอลง ทำให้เกิดริ้วรอย อ่อนคล้อย ไม่กระชับ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหา “คอเหี่ยว” ตามมานั่นเอง โดย Dr. K. Daniel Riew ศาสตราจารย์ด้านศัลยศาสตร์กระดูก ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยโคลัมเบียนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา (Columbia University Medical Center) กล่าวว่า “แค่เพียงเราก้มหน้า 45 องศา กล้ามเนื้อส่วนคอจะรับน้ำหนัก เทียบเท่ากับการยกถุงมันฝรั่งถึง 50 ปอนด์” !! ยิ่งด้วยผิวหนังบริเวณลำคอมีความบอบบางกว่าส่วนอื่นด้วย จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมการก้มหน้าเล่นมือถือ จึงส่งผลให้ “คอเหี่ยว” ตามมาได้ โทษของการก้มหน้าเล่นมือถือ ไม่ได้มีแค่นี้นะคะ เพราะนอกจากจะส่งผลเสียต่อจอประสาทตา และผิวหนังบริเวณลำคอของเราแล้ว ยังส่งผลต่อกล้ามเนื้อช่วงคอ ไหล่ และหลัง ที่อาจเกิดภาวะหด เกร็ง ทำให้ปวดคอ ปวดหลังตามมา หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันในชื่อ “ออฟฟิศซินโดรม” นั่นเอง เห็นแบบนี้แล้ว สาว ๆ คนไหนที่ต้องใช้มือถือเป็นประจำ คงต้องรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันใหม่ อันดับแรกเลยคือ ค่อย ๆ ลดการเล่นมือถือติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยแนะนำให้กะระยะสายตา และโทรศัพท์มือถือให้อยู่ในระยะที่เหมาะสมไม่ก้มต่ำจนเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงริ้วรอยที่เกิดจากการกดทับเป็นเวลานาน ๆ ได้ อ่านวิธีแก้คอเหี่ยว แบบง่าย ๆ ไม่ต้องพึ่งมีดหมอ คลิ้กที่นี่  และที่สำคัญแนะนำให้หันมาบำรุงผิวบริเวณลำคอให้มากขึ้น โดยการใช้ “นางงาม เนค เซรั่ม ลิฟติ้ง แอนด์ ไวท์เทนนิ่ง” เซรั่มเนื้อเข้มข้น ตัวช่วยบำรุงผิวบริเวณลำคอให้กระชับ เต่งตึง เรียบเนียน และที่สำคัญ ช่วยให้ริ้วรอยแลดูจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ หมดปัญหาคอเหี่ยวย่นอีกต่อไป