สาว ๆ เคยเกิดความสงสัยไหมคะ ว่า “น้ำหอม” เหมือนกัน แต่ทำไมระดับความติดทนของกลิ่นแตกต่างกัน หลาย ๆ คนอาจจะให้ความสำคัญไปที่กลิ่นน้ำหอม จนอาจละเลยไปว่าประเภทของน้ำหอมก็สำคัญนะ
วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ 4 ประเภท “น้ำหอม” ที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อ เพื่อที่จะได้น้ำหอมตรงตามใจ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่า
1. Eau Fraiche (โอ เฟรช)
น้ำหอมประเภทนี้ เป็นน้ำหอมที่มีความเจือจางมากที่สุด เนื่องจากมีส่วนผสมของหัวน้ำหอมเพียงแค่ 1-3% จึงทำให้เป็นประเภทที่มีกลิ่นอ่อนมากที่สุด และความติดทนต่ำสุด โดยทั่วไปแล้วหลังฉีด กลิ่นจะอยู่บนตัวเราประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ดังนั้นสำหรับคนที่ต้องการออกไปทำกิจกรรมเวลาสั้น ๆ น้ำหอมประเภทนี้น่าจะตอบโจทย์มากที่สุดค่ะ
2. Eau De Cologne (โอ เดอ โคโลญ)
สำหรับสาว ๆ ที่ต้องการ “น้ำหอม”กลิ่นบางเบา ไม่ฉุนจนเกินไป แนะนำเป็นตัว โอ เดอ โคโลญ หรือโคโลญ เลยค่ะ เนื่องจากมีส่วนผสมของหัวน้ำหอมเพียงแค่ 2-4% แม้ว่าจะมากกว่าโอ เฟรช นิดหน่อย แต่ความติดทนก็ยังอยู่แค่ 2-3 ชั่วโมง แต่ข้อดีของน้ำหอมประเภทนี้คือ ราคาถูก และกลิ่นเบาบาง ไม่ฉุนจนเกินไปค่ะ
3. Eau De Toilette : EDT (โอ เดอ ตัวเล็ตต์)
หลาย ๆ คนคงคุ้นชินกับชื่อน้ำหอมประเภทนี้ ตามเคาเตอร์แบรนด์ต่าง ๆ นั่นก็เป็นเพราะว่าเป็นประเภทที่ค่อนข้างเป็นที่นิยม ใช้ได้กับหลายโอกาส โดยมีส่วนผสมของหัวน้ำหอมอยู่ที่ 5-15% และความติดทนอยู่ที่ 3-5 ชั่วโมง จึงเหมาะกับการออกไปเดินช็อปปิ้ง ดูหนัง อีเวนท์ หรือประชุม
4. Eau De Parfume (โอ เดอ พาร์ฟูม)
มาถึงประเภทสุดท้าย ที่มีระดับหัวน้ำหอมมากที่สุด แถมยังติดทนมากที่สุดอีกด้วย น้ำหอมประเภทนี้มีส่วนผสมของหัวน้ำหอมอยู่ที่ 15-20% ซึ่งถือว่าสูงมาก จึงทำให้ความติดทนอยู่ที่ 6-10 ชั่วโมงเลย เรียกได้ว่าเหมาะกับทุกกิจกรรม ฉีดตอนเช้า ตอนเย็นกลิ่นยังอยู่ ไม่ต้องฉีดซ้ำระหว่างวัน มีขวดเดียวใช้ได้ยาว ๆ เลยจ้าา
สำหรับใครที่ต้องการความหอมติดทนนาน มีความเข้มข้นของหัวนน้ำหอมมากที่สุด แนะนำ “Miss Grand Perfume” น้ำหอมประเภท Eau de perfume จากแบรนด์ “มิสแกรนด์” ที่มี 4 กลิ่นให้เลือกตามสไตล์คุณ ใช้ได้ทั้งคุณผู้หญิง และคุณผู้ชายเลยค่าา
