เลือกน้ำหอมมิสแกรนด์กลิ่นไหนดี ซื้อทั้งที เอาให้ปัง!!

หลังจากที่ “มิสแกรนด์” ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ “Miss Grand Perfume” เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อยากบอกว่ากระแสตอบรับดีม้ากก ยอดขายปั๊ว ปัง ไม่แพ้นางงามเลย !!

และสำหรับใครที่ยังไม่ได้ซื้อไปใช้ หรือกำลังเลือกๆอยู่ว่าจะซื้อกลิ่นไหนดี วันนี้เรามาแนะนำแต่ละกลิ่นของ “น้ำหอมมิสแกรนด์” เพราะ ซื้อทั้งที เอาให้ปัง!! มาทำความรู้จักไปพร้อมๆกันเลยค่าา

1. กลิ่น Paris (สีชมพู)

เริ่มต้นด้วยกลิ่นแรก กลิ่นที่ขายดีที่สุดดด เหมาะสำหรับสาวที่เริ่มใช้น้ำหอม หรือคนที่ชอบกลิ่นดอกไม้ หอมหวาน เรียบหรู ฉีดแล้วให้ฟีลเหมือนลูกคุณหนู ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ ไปทำงาน ออกเดต ดูหนัง หรือแค่เดินออกไปปากซอยก็ใช้ได้หมดเลยค่ะ โดยกลิ่นหลักๆของเค้าจะเป็นกลิ่นดอกไม้ ใครที่อยากได้ลุคสาวหวาน แนะนำเล้ยย

2. กลิ่น Seoul (สีฟ้า)
สำหรับใครที่มาสายแซ่บ สายฝอ แนะนำเลยค่ะว่าห้ามพลาดกลิ่นนี้เด็ดขาด เพราะเค้าให้กลิ่นเฟรชชี่แบบสุดๆ ฉีดแล้วจะรู้สึกละมุน แฝงความเซ็กซี่ ให้ลุคสาวแซ่บ เหมาะกับการฉีดไปเที่ยวกลางคืน หรือไปเที่ยวกับเพื่อน บอกเลยค่ะว่ากันซีนจริงกลิ่นนี้ ใครได้กลิ่นต้องเหลียวหลัง ไม่ซื้อไหวหรออ

3. กลิ่น Rio (สีดำ)

ใครบอกว่าน้ำหอมฉีดได้เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น !! กลิ่นนี้เป็น Unisex นะคะ ใช้ได้ทั้งชายและหญิง มีกลิ่นอายละติน เหมาะกับคนที่ไม่ชอบกลิ่นหวานจนเกินไป แนะนำเลยค่ะ ฉีดแล้วจะให้ฟีลสุขุม นุ่มลึก น่าค้นหา ผู้ชายลุคสุภาพบุรุษ ผู้หญิงให้ฟีลสาวแกร่ง น่าเชื่อถือสุดๆ

4. กลิ่น Milan (สีเทา)

มาถึงกลิ่นสุดท้ายย กลิ่นนี้ก็ Unisex เหมือนกันค่า ต่างตรงที่เค้าให้กลิ่นแนวคลาสสิค ถ้าผู้ชายฉีดอาจจะดูเป็นหนุ่มรักสนุก เข้าสังคมเก่ง ลุคหนุ่มสปอร์ต ถ้าผู้หญิงฉีดจะได้ลุคสาวมั่น มีความทันสมัย กระฉับกระเฉง น่าค้นหา ใครอยากได้ลุคแบบนี้ แนะนำเลยว่าต้องไปตำ!

เป็นยังไงกันบ้างคะ “น้ำหอมมิสแกรนด์” ทั้ง 4 กลิ่น มีเอกลักษณ์ต่างกันไป ตามสไตล์ของแต่ละคน และอีกนิดค่ะ ถ้ากังวลเรื่องกลิ่นจะติดทนไหม ขอตอบตรงนี้เลยว่า “น้ำหอมมิสแกรนด์” เป็นน้ำหอมประเภท Eau De Perfume ที่มีความเข้มข้นของหัวน้ำหอมมากที่สุดถึง 20% ซึ่งถือว่าเยอะมาก เมื่อเทียบกับน้ำหอมทั่วไป ทำให้กลิ่นติดทน 6-10 ชั่วโมงเลยค่ะ ทนชนิดที่ว่าฉีดตอนเช้า ตอนเย็นกลิ่นยังอยู่ บอกเลยว่าซื้อไป ไม่มีผิดหวังแน่นอนค้าา