แน่นอนค่ะว่า ถ้าพูดถึงปัญหาผิว คงจะไม่มีใคร ไม่นึกถึงเจ้าปัญหา “ฝ้า” “กระ” “จุดด่างดำ” ปัญหาที่ถูกพูดถึงในเหล่าบรรดาผิว เพราะเป็นแล้วเหมือนจะแก้ยาก หายช้า บางคนถึงกับทำใจกันเลยทีเดียว แต่วันนี้ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะเราจะพาทุกคนไปดูความลับของปัญหาผิวเหล่านี้กัน เพราะถ้าเรารู้ต้นตอ ก็หายได้ จางลงได้ กับ “ไขความลับ “ฝ้า กระ จุดด่างดำ” แก้ได้ตรงจุด แค่รู้ต้นตอ”
“ฝ้า”
ปัญหาผิวยอดฮิต ที่ไม่มีคนไหนอยากให้เกิดบนผิวหน้า หลาย ๆ คนจึงเลือกทางออกคือการเก็บตังค์ไปทำเลอเซอร์ทีเดียว ซึ่งก็เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งต้นเหตุของปัญหานี้ คืออะไร มาดูกันค่ะ
สาเหตุการเกิด “ฝ้า”
เกิดจากกระบวนการสร้างเม็ดสี หรือเมลานิน (Melanin) ใต้ชั้นผิวทำงานผิดปกติ ส่งผลให้มีการสะสมเม็ดสีมากขึ้นในบางบริเวณ ส่วนมากจะเกิดบริเวณที่สัมผัสแสงแดดโดยตรง เช่นหน้าผาก แก้ม จมูก เหนือริมฝีปากบน และกราม โดยจะมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับฝ้า แต่ละประเภท
“ฝ้าแดด” : เกิดจากรังสียูวีจากแสงแดด หรือแม้กระทั่งหลอดไฟ
“ฝ้าเลือด” : เกิดจากการทำงานผิดปกติของเส้นเลือดฝอยบนใบหน้า
“ฝ้าฮอร์โมน” : เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนแบบฉับพลัน ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับหญิงตั้งครรภ์ หรือในช่วงก่อนเป็นประจำเดือน
วิธีสังเกต : เป็นรอยปื้นใหญ่ๆ ผิวเรียบ บริเวณที่เป็นฝ้า จะเข้มขึ้นเมื่อเจอกับแสงแดด และสามารถจางลงได้ถ้าไม่เจอแดด
“กระ”
เคยได้ยินคำว่า “ผิวตกกระ” กันไหมคะ จริง ๆ แล้วเนี่ย “กระ” สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วทั้งร่างกายเราเลย แต่ส่วนมากจะเกิดบนผิวหน้า เพราะเป็นส่วนที่สัมผัสแสงแดดโดยตรงนั่นเอง ซึ่งสาเหตุการเกิด ก็เหมือนกับ “ฝ้า” เลยค่ะ
สาเหตุการเกิด “กระ”
เกิดจากใต้ชั้นผิวมีการสะสมของเม็ดสีมากเกินไป แต่จะกระจายเป็นจุดถี่ ๆ ส่วนมากจะเกิดกับคนผิวขาว เนื่องจากมีเมลานินน้อยเมื่อเจอแสงแดด เม็ดสีก็จะเพิ่มขึ้นไม่สม่ำเสมอ โดย “กระ” ก็มีหลายประเภท ได้แก่
“กระตื้น” : กระระยะเริ่มต้น เป็นจุดน้ำตาลเล็ก ๆ สามารถหายได้ ถ้ารีบรักษา
“กระลึก” : เกิดถัดมาจาก “กระตื้น” มีลักษณะจุดเข้มขึ้น เป็นสีเทา
“กระแดด” : มีลักษณะเป็นดวงสีน้ำตาล ผิวเรียบ
“กระเนื้อ” : เป็นจุดดำ มีลักษณะเป็นติ่งเล็ก ๆ นูนขึ่้นมา ต้องเลเซอร์จี้ออก
วิธีสังเกต : เป็นจุดเล็กถี่ ๆ กระจายบนใบหน้า หากเป็นกระลึกสีจะเข้มกว่ากระตื้น แต่หากเป็นกระเนื้อ จะมีลักษณะนูนขึ้นมา จำเป็นต้องทำการเลเซอร์ออก
“จุดด่างดำ”
ส่วนใหญปัญหา “จุดด่างดำ” ที่เรามักเจอกัน จะเกิดจากสิวนั่นเอง ทำให้ปัญหานี้เกิดได้ง่ายกว่า “ฝ้า” และ “กระ”
สาเหตุการเกิด “จุดด่างดำ”
“จุดด่างดำ” หรือ “รอยดำ” ส่วนใหญ่จะเกิดภายหลังการอักเสบของผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็น
รอยดำจากสิว
รอยดำจากการอักเสบ
รอยดำจากแผล
เนื่องจากเมื่อเซลล์ผิวหนังมีการอักเสบ ร่างกายจะสร้างสารที่ไปกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดสี ที่บริเวณดังกล่าว และเมื่อยิ่งอักเสบ ผิวบริเวณนั้นก็จะยิ่งคล้ำขึ้น จากเซลล์เม็ดสีที่เพิ่มขึ้น กลายเป็น “รอยดำ” หรือ “จุดด่างดำ” นั่นเอง
วิธีสังเกต : เป็นจุดหรือปื้นสีน้ำตาล เกิดบริเวณเดียวกับที่ผิวหนังเคยมีการอักเสบมาก่อน เช่น มีอาการแดง บวม เจ็บ
เป็นไงกันบ้างคะกับความลับของ “ฝ้า กระ จุดด่างดำ” พอเราทำความเข้าใจกับต้นตอของปัญหาแล้ว การแก้ปัญหาก็ไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป ซึ่งจากที่กล่าวมา สาเหตุส่วนใหญ่จะเกิดจาก “รังสี UV” จากแสงแดด ที่เป็นตัวกระตุ้นนั่นเอง ดังนั้นการหลีกเลี่ยงแสงแดด และทากันแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญ
“ครีมทาฝ้า” เป็นสิ่งสำคัญมาก
และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือการฟื้นฟูผิว ในบริเวณดังกล่าว เพราะเมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว สิ่งที่เราต้องทำคือการรักษา และบำรุงผิวจุดนั้นเป็นพิเศษค่ะ แนะนำให้ใช้ครีมบำรุง ที่มีสรรพคุณในการแก้ปัญหา “ฝ้า กระ จุดด่างดำ” โดยเฉพาะ อย่าง “ครีมสลายฝ้านางงาม” (NangNgam Anti-Melasma & Dark Spot Cream) โดยครีมตัวนี้ เค้ามีสารสกัดหลายตัว ที่ช่วยกำจัด “ฝ้า กระ จุดด่างดำ” โดยเฉพาะ อย่างเช่น สารสกัด Sea Daffodil ที่มีการทดลองพบว่า สารสกัดดังกล่าวที่ความเข้มข้น 1.5% มีความสามารถในการลดความเข้มฝ้า กระ จุดด่างดำได้ ซึ่งจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่วันที่ 42 และเห็นผลชัดเจนในวันที่ 84 ใครที่มีปัญหาอย่างที่เล่ามา แนะนำตัวนี้เลยค่ะ